การเทรดระหว่าง เน็ตส์ และ แมฟเวอร์ริกส์ กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งของ NBA สัปดาห์นี้ไปแล้ว
ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ได้ถูกรายงานว่าพวกเขาได้คว้าตัว ไครี เออร์วิง และ มาร์คีฟ มอร์ริส จากการเทรด สเปนเซอร์ ดินวิดดี้, โดเรียน ฟินนีย์-สมิธ, สิทธิ์ดราฟท์รอบแรก ปี 2029, สิทธิ์ดราฟท์รอบสอง ปี 2027 และ 2029
การ์ด All-Star รายนี้รู้สึก “ยินดี” ที่จะได้ร่วมงานกับ ลูก้า ดอนซิช เพื่อสร้างคู่หูถล่มแต้มขึ้นมา หากอ้างอิงจากรายงานของ คริส เฮย์นส์ จาก บลีชเชอร์ รีพอร์ต ซึ่งทีมอื่นๆในฝั่งตะวันตกคงไม่ได้ร่วมยินดีไปกับพวกเขาเท่าไหร่นัก
เมื่อ เออร์วิง ได้บอกกับทีมอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการออกจากทีมก่อนเส้นตายการเทรดในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ทางด้าน แอลเอ เลเกอร์ส จึงกลายเป็นทีมที่หลายๆคนมองว่าจะเป็นทีมต่อไปของ ไครี เออร์วิง เนื่องจาก เลเกอร์ส เคยให้ความสนใจในตัวของ ไครี มาก่อนหน้านี้แล้ว และ เลบรอน ก็ไม่ติดขัดอะไรกับเรื่องนี้หากเพื่อนร่วมทีมคนเก่าจะถูกเทรดมาร่วมทัพ
แต่เกิดอะไรขึ้นระหว่างการเจรจาที่ทำให้ แมฟส์ ปาดหน้าตัว ไครี ไปจากทัพม่วงทอง?
อ่านบทความ : แมฟส์ คว้า ไครี เออร์วิง : เผยข้อมูลการเทรดระหว่าง เน็ตส์ กับ แมฟส์
ทำไม เลเกอร์ส ถึงไม่สามารถคว้าตัว ไครี เออร์วิง มาร่วมทัพ?
ก่อนที่ ไครี จะขอเทรดออกจากทีม ตัวเขาตั้งใจที่จะต่อสัญญากับ เน็ตส์ และมองถึงการได้รับสัญญาที่ 4 ปี กับค่าตัวประมาณ $200 ล้าน แต่ เน็ตส์ กลับยื่นข้อเสนอที่พร้อม “เงื่อนไขรับประกัน” เข้ามาด้วย
อ่านบทความ : ไขข้อสงสัย : ทำไม ‘ไครี’ ขอเทรดออกจากเน็ตส์ เกิดอะไรขึ้นกับเขา?
ซึ่ง เลเกอร์ส ก็มีปัญหาเกี่ยวกับสัญญาเช่นกัน หากอ้างอิงจาก แซม เอมิค จาก ดิ แอธเลติก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางด้าน แอลเอ เลเกอร์ส ยังคงลังเลในการที่จะส่งแพ็คเกจการเทรดที่ เน็ตส์ ต้องการเพื่อแลกกับ ไครี เว้นเสียแต่ว่า เออร์วิง จะยอมต่อสัญญาที่ระยะเวลา 2 ปี, $78.6 ล้าน
จาก เอมิค: